วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อังคาร กัลยาณพงศ์


ฉัน​เอาฟ้าห่มให้ หายหนาว
ดึกดื่นกินแสงดาว ต่างข้าว
น้ำค้างพร่างกลางหาว หาดื่ม
ไหลหลั่งกวีไว้เช้า​ ชั่วฟ้าดินสมัย ๚...

รูปภาพ


            เกิดเมื่อวันอาทิตย์ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของกำนันเข็ม  และนางขุ้ม กัลยาณพงศ์  ในวัยเด็กร่างกายเคยเป็นอัมพาตเคลื่อนไหวไม่ได้  มีหมอมารักษาด้วยสมุนไพรจนหาย
            เรียน ชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดใหญ่และโรงเรียนวัดจันทาราม เรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนพระพุทธเจ้าหลวงอุปถัมภ์และโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช   ศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่าง มหาวิทยาลัยศิลปากร แล้วไปเรียนที่คณะจิตรกรรมและประติมากรรมมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นศิษย์ของศิลปินใหญ่อย่างเช่น ศ. ศิลป พีระศรี. อ, เฟื้อ หริพิทักษ์,จึงได้ติดตามและร่วมมือกับอาจารย์ในด้านศิลปกรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์  
 
 ความ เป็นกวีนั้นเป็นพรสวรรค์ที่อังคารเชื่อมั่นและฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม เมื่อออกจากมหาวิทยาลัยศิลปากรแล้ว ได้ร่อนเร่เรียนรู้และสร้างสรรค์การวาดภาพและเขียนบทกวี ได้มีโอกาสคุ้นเคยกับศิลปินและกวีร่วมยุคสมัยหลายคน มีผลงานบทกวีปรากฏในหนังสือ อนุสรณ์น้องใหม่ มหาวิทยาลัยศิลปากร กระทั่งได้พบกับสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้ก่อตั้งกและเป็นบรรณาธิการคนแรกของ สังคมศาสตร์ปริทัศน์ บทกวีของอังคาร กัลยาณพงศ์ จึงได้พิมพ์เผยแพร่อย่างกว้างขวาง   มีผลงานที่จัดพิมพ์สร้างความตื่นตัวตื่นใจให้กับวรรณกรรมไทยมาเนิ่นนาน เช่น กวีนิพนธ์ (2507), ลำนำภูกระดึง (2512), สวนแก้ว (2515), บางกอกแก้วกำสรวลหรือนิราศนครศรีธรรมราช (2512) อันเป็นเล่ม
            ในปี 2532 ได้ รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ด้านกวีนิพนธ์ ซึ่งเป็นกวีร่วมสมัยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น จินตกวี ผู้ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในด้านวรรณศิลป์และทัศนศิลป์
          อังคาร กัลยาณพงศ์  ได้สมรสกับคุณอุ่นเรือน  มี บุตรชาย 1 คน บุตรสาว 2 คน คือ ภูหลวง อ้อมแก้ว และวิสาขา กัลยาณพงศ์ โดยสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมและงานประพันธ์ทั้งร้องกรองและร้อยแก้วเป็นอาชีพ
 นามปากกา
-          อังคาร กัลยาณพงศ์
 ผลงานรวมเล่ม
   ร้อยกรอง
-          กวีนิพนธ์ของอังคาร
-          กัลยาณพงศ์
-          ลำนำภูกระดึง
-          บางบทจากสวนแก้ว
-          บางกอกแก้วกำสรวลหรือนิราศนครศรีธรรมราช
-          ปณิธานกวี
-          กวีศรีอยุธยา
   ร้อยแก้ว
-          หยาดน้ำค้างคือน้ำตาของกาลเวลา
   เกียรติยศที่ได้รับ
-          ได้รับรางวัลกวีนิพนธ์ดีเด่น คนแรกของมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป เมื่อ พ.ศ. 2515
-          ได้รับรางวัลซีไรต์จากผลงานเรื่อง ปณิธานกวี เมื่อ พ.ศ. 2529
-          ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนปี 2529 จากกวีนิพนธ์เรื่อง ปณิธานกวี ต่อมา
-          ได้รับการประกาศเกียรติคุณยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์)เมื่อ พ.ศ. 2532
   "แม่งู" อังคาร กัลยาณพงษ์ 2539
  
  "ไปโรงเรียน" อังคาร กัลยาณพงษ์ 2550
ปณิธานของกวี

๑. ฉัน​เอาฟ้าห่มให้ หายหนาว
ดึกดื่นกินแสงดาว ต่างข้าว
น้ำค้างพร่างกลางหาว หาดื่ม
ไหลหลั่งกวีไว้เช้า​ ชั่วฟ้าดินสมัย ๚

๒. พลีใจ​เป็นป่าช้า อาถรรพณ์
ขวัญลิ่ว​ไปเมืองฝัน ฟากฟ้า
เสาะทิพย์​ที่สวรรค์ มาโลก
โลมแผ่นทรายเส้นหญ้า ​เพื่อหล้าเกษมศานต์ ๚

๓. นิพนธ์กวีไว้​เพื่อกู้ วิญญาณ
กลางคลื่นกระแสกาล เชี่ยวกล้า
ชีวีนี่มินาน เปลืองเปล่า
ใจเปล่งแววทิพย์ท้า ตราบฟ้าดินสลาย ๚

๔. จิตกาธารกรุ่นไหม้ โฉม​ไป ก็ดี
กาพย์ร่ำหอมแรงใจ ​ไป่แล้ว​
จุติ​ที่ภพไหน ภพนั่น
ขวัญท่วมทิพย์รุ้งแก้ว ร่วงน้ำมณีสมัย ๚

๕. ลายสือไหววิเวกให้ หฤหรรษ์
ฝนห่าแก้วจากสวรรค์ ดับร้อน
ใจปลิวลิ่ว​ไปฝัน โลกอื่น
หอมภพนี้สะท้อน ภพหน้ามาหอม ๚

๖. ข้ายอมสละทอดทิ้ง ชีวิต
หวังสิ่งสินนฤมิต ใหม่แพร้ว
วิชากวีจุ่งศักดิ์สิทธฺ์ สูงสุด
ขลังดั่งบุหงาป่าแก้ว ร่วงฟ้ามาหอม ๚

อังคาร กัลยาณพงศ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น